ไฉไลในประเทศลาว (3)
ตอนสุดสายรถไฟลาว-จีนที่บ่อเต็นแดนงาม
- บ่อเต็น
แดนงาม -
บ่อเต็นเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษในเขตปกครองของแขวงหลวงน้ำทา ประเทศลาว อยู่ติดกับชายแดนเมืองโมฮานหรือบ่อหานของประเทศจีน ในปี 2546 รัฐบาลลาวได้มอบสัมปทานพื้นที่บ่อเต็นเพื่อก่อตั้งเขตเศรษฐกิจบ่อเต็นแดนคำ แก่บริษัท ฟุกฮิง ทราเวล จากฮ่องกง มีการพัฒนาพื้นที่เป็นทั้งที่พัก สถานบันเทิง คาสิโน และธุรกิจประเภทอื่น ๆ อีกมากมาย แต่เนื่องจากมีการเกิดอาชกรรมร้ายแรงทำให้มีการออกกฎยกเลิกกิจการคาสิโนและยึดสัมปทานกลับมาในปี 2550 กระทั่งปี 2554 รัฐบาลลาวได้ให้สัมปทานแก่บริษัทยูนนาน ไห่เฉิง และเปลี่ยนชื่อเป็น “บ่อเต็นแดนงาม” บริษัทยูนนาน ไห่เฉิงได้พัฒนาพื้นที่บ่อเต็นให้กลายเป็นเมืองเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบ มีโรงแรม คอนโด ร้านอาหาร และกำลังพัฒนาให้มีห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล พื้นที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ฯลฯ
หลังจากที่เราสิ้นสุดการสำรวจพื้นที่นาเตยจึงได้เดินทางมาที่บ่อเต็นด้วยรถไฟอีกครั้ง การเดินทางด้วยรถไฟจากนาเตยไปบ่อเต็นดูจะเป็นทางเลือกหลัง ๆ ของคนในพื้นที่ เนื่องจากนาเตยห่างจากบ่อเต็นไม่มาก มีรถโดยสารที่รับผู้โดยสารอยู่แล้ว ราคาไม่แพง ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงบ่อเต็น อีกทั้งรอบรถไฟที่มาถึงนาเตยนั้นเป็นเวลาเกือบเที่ยง หากมีธุระหรือต้องไปทำงานตอนเช้า รถไฟจะไม่อยู่ในตัวเลือกของคนทำงานเลยด้วยซ้ำ เราใช้เวลาเพียง 15 นาที รถไฟก็พาเรามาถึงสถานีรถไฟบ่อเต็น เมื่อเดินออกจากสถานีเราพบว่ามีรถโดยสารจำนวนมากทั้งแบบรถตู้ รถบัส รถกอล์ฟ ให้บริการรับส่งไปที่บ่อเต็นและหน้าด่านที่จะข้ามไปจีน เพราะสถานีห่างจากเมืองประมาณ 4-5 กิโลเมตร เราจึงเลือกขึ้นบริการรถกอล์ฟแบบสิบที่นั่งเพื่อเดินทางไปยังโรงแรม เส้นทางที่ออกจากสถานีรถไฟไปตัวเมืองเป็นถนนบนเนินเขาโล่งๆ มีฝุ่นจากดินแดงตลบอบอวนตลอดเส้นทางที่รถวิ่งผ่าน เมื่อเข้าใกล้ตัวเมืองจะเริ่มเห็นโครงการก่อสร้างต่าง ๆ มากมาย พื้นที่ชั้นในของเมืองเราเห็นบาร์คาบาเร่ป้ายขนาดใหญ่เป็นรูปนักแสดงคาบาเร่เรียงราย ฝั่งขวาของถนนเป็นโซนห้องเช่ากึ่งถาวรเตี้ย ๆ มีร้านอาหารเรียงราย ฝั่งซ้ายเป็นตึกอาคารขนาดใหญ่ เป็นที่ตั้งของธนาคารต่าง ๆ พื้นที่เมืองชั้นในเริ่มเห็นร้านค้ามากขึ้น แต่ไม่มีผู้คนเท่าใดนัก โดยเฉพาะเวลากลางวัน ไม่นานนักคนขับรถพาผู้โดยสารไปส่งลงหน้าด่านเพื่อข้ามไปฝั่งจีน อย่างไรก็ตาม สังเกตุได้ว่าการเดินทางไปมาระหว่างลาว-จีนด้วยรถไฟไม่ได้เชื่อมกันโดยตรง ผู้โดยสารรถไฟยังต้องลงจากสถานีปลายทางของแต่ละฝั่ง และนั่งรถข้ามแดนปกติ
จากจุดจอดรถหน้าด่าน เราให้คนขับรถไปส่งเราต่อที่ Jing Land Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในบ่อเต็นและเป็นเพียงโรงแรมเดียวที่พวกเราสามารถจองผ่านอินเตอร์เน็ตได้ โรงแรมจิ่งหลานเคยเป็นโครงการก่อสร้างและบริหารงานโดยบริษัทไห่เฉิง ภายหลังมีการเปลี่ยนมือเป็นของบริษัทอื่น ซึ่งเป็นลักษณะทั่วไปในพื้นที่นี้ที่ไห่เฉิงจะทำการสร้างและขายต่อให้แก่บริษัทอื่น ๆ หน้าโรงแรมมีรูปปั้นช้าง ศาลฮินดู และสถาปัตยกรรมปูนปั้นแบบพุทธ ลาว จีน ผสมปนเปกัน พนักงานโรงแรมเป็นชาวลาวที่สามารถสื่อสารภาษาจีนได้และยังมีพนักงานที่เป็นคนจีนด้วย โรงแรมถูกแบ่งเป็นสองส่วนคือฝั่ง A และ B ซึ่งเป็นห้องพักสำหรับผู้สูบบุหรี่และฝั่งที่ห้ามสูบบุหรี่ เท่าที่สังเกตคร่าว ๆ เราพบว่าผู้เข้าพักส่วนใหญ่เป็นคนจีน ไม่มากนักที่จะเห็นคนลาวหรือต่างชาติชาวตะวันตก
เดินไปตามถนนไม่ไกลจากโรงแรมก็จะพบกับร้านอาหาร ร้านขายของชำ ร้านอาหารจีนจำนวนมาก เราพบร้านอาหารลาวเพียงร้านเดียวที่เปิดขายอาหารท้องถิ่นแบบห่อกลับบ้าน ส่วนร้านอาหารจีนนั้นมีทั้งร้านอาหารจานเดียว ภัตตาคาร ร้านติ่มซำ ร้านชานมไข่มุก “ร้านนวด” และมีผับของคนไทยชื่อว่า Bangkok บริเวณถนนด้านหลังของโรงแรมจะมีตลาดสดเล็กๆ ร้านขายอาหาร และ “ร้านตัดผม” เปิดอยู่ชิด ๆ ในพื้นที่ใกล้กันนอกจากนี้ยังมีตลาดอาหารซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านจุ่มดาด(หมูจุ่ม หมูกระทะ) ร้านหมาล่า ร้านหมูกระทะ ในตอนเที่ยง พบว่ามีร้านเปิดอยู่ไม่มาก ผู้คนที่นี่ดูเหมือนจะไม่นิยมใช้ชีวิตในเวลากลางวันซึ่งต่างจากตอนค่ำที่เราจะเห็นคนพลุกพล่านเต็มถนน มีทั้งคนลาว คนจีน ออกมานั่งดื่มกินตามร้านอาหารทั่วไป
การสำรวจครั้งนี้ พวกเราได้เยี่ยมชมโครงการก่อสร้างของบริษัทแห่งหนึ่งที่เช่าพื้นที่สัมปทานต่อจากไห่เฉิงมาเพื่อพัฒนาพื้นที่เป็นคอนโด โรงแรม และห้างสรรพสินค้า พวกเราตั้งข้อสังเกตว่า การบริหารงานของไห่เฉิงมีลักษณะทำออกมาและขายไป ไม่เน้นการครอบครองหรือดูแลเองทุกส่วน ตัวอย่างพื้นที่ของโครงการนี้ก็ได้ทำการเช่าที่ดินบางส่วนมาจากไห่เฉิง นอกจากนี้พวกเรายังได้เข้าไปสำรวจอาคารจัดแสดงโมเดลของเขตเศรษฐกิจซึ่งดูแลโดยบริษัทยูนนาน ไห่เฉิง พนักงานชายท่านหนึ่งได้ให้ข้อมูลและเล่าแผนงานคร่าวๆ ของการพัฒนาพื้นที่ให้พวกเราด้วยภาษาจีน โดยอธิบายเกี่ยวกับพื้นที่ทั้งหมดที่ไห่เฉิงมีแผนจะพัฒนา อาทิ พื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่ท่องเที่ยว พื้นที่อุตสาหกรรมประเภทต่างๆ ฯลฯ และปิดด้วยการเสนอขายห้องพักในคอนโด พนักงานท่านนี้ยังได้นำพวกเราชมอาคารคอนโดที่เขาซื้อไว้เอง พร้อมกับชี้ถึงความคุ้มค่าว่าจะเก็บไว้เป็นที่พักอาศัยหรือปล่อยเช่าได้
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดหลังจากสำรวจบ่อเต็นและพูดคุยกับพนักงานของโครงการต่าง ๆ พวกเราสังเกตว่าพนักงานประชาสัมพันธ์ และพนักงานขายของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ มักจะให้ข้อมูลการพัฒนาของบ่อเต็น โดยเน้นที่การสร้างเมืองให้เป็นพื้นที่ของการอยู่อาศัยและพักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะการพยายามปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของพื้นที่เมืองบ่อเต็นออกจากภาพจำเก่าของธุรกิจคาสิโนและธุรกิจสีเทาในอดีต โดยทั้งพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ประจำโครงการมักจะเน้นว่า พื้นที่เขตเศรษฐกิจแห่งนี้มีความปลอดภัยและกำลังจะพัฒนาให้กลายเป็นเมืองทันสมัย กระบวนการถ่ายทอดจินตนาการและแผนงานของโครงการสู่ลูกค้า ถูกทำให้จับต้องได้มากขึ้นผ่านโมเดลขนาดใหญ่ที่จำลองให้เห็นว่าทั้งเมืองจะมีโฉมหน้าอย่างไรเมื่อเมืองพัฒนาแล้วเสร็จ รวมไปถึงเรื่องเล่า แผ่นผับโฆษณา และภาพวีดีทัศน์เคลื่อนไหว ล้วนเป็นเครื่องมือสำคัญที่ถูกนำมาช่วยให้ผู้ฟังอย่างพวกเรา เข้าถึงภาพจินตนาการระหว่างการสนธนาได้แจ่มชัดมากขึ้น
* ผลงานชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการเผยแพร่ข้อมูลงานวิจัยต่อสาธารณะภายใต้ โครงการ “รถไฟจีนข้ามพรมแดน : การศึกษาเปรียบเทียบผลกระทบของโครงการก่อสร้างทางรถไฟต่อชุมชนรอบสถานีหลักในประเทศไทยและลาว ได้รับทุนสนับสนุนจาก สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) โดยหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนา กำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) ประจำปีงบประมาณ 2564 - 2566
** ปัจจุบันโครงการวิจัยยังอยู่ระหว่างดำเนินการ เนื้อหาที่เผยแพร่เป็นส่วนหนึ่งของการรวบรวมข้อมูล ไม่ใช่ข้อสรุปผลการวิจัย
ผานิตดา ไสยรส
หัวหน้าโครงการ
ปลายฟ้า นามไพร
ผู้ช่วยวิจัย
Kesone Kanhalikham
ผู้ช่วยวิจัย